เหล็กกล่องสี่เหลี่ยม ที่ช่างผู้รับเหมาเลือกใช้ในงานโครงสร้างและงานหลังคา


     เหล็กกล่องสี่เหลี่ยม (Carbon Steel Square Pipes) หรือที่เรียกกันว่า เหล็กแป๊บ เหล็กท่อเหลี่ยม สำหรับเหล็กกล่องสี่เหลี่ยมเป็นเหล็กรูปพรรณรีดเย็น มุมฉากแบบ 90 องศา มีความเรียบคม คุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา จึงนิยมนำไปใช้ในงานโครงสร้างต่าง ๆ เช่น เสา คาน นั่งร้าน และโครงหลังคา ทั้งนี้เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในงานทั่วไป อาทิ นำไปผลิตเฟอร์นิเจอร์ โครงเตียงนอน โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นเก็บของ ตู้เก็บของ เป็นต้น 

 

เลือกซื้อเหล็กกล่องอย่างไร ให้เหมาะสมกับการนำไปใช้ในงานก่อสร้า


- ต้องดูที่น้ำหนักจริงของเหล็กกล่อง ไม่เพียงแต่ดูแค่ความหนาของเหล็ก
- มีใบรับรองมาตรฐาน มอก. เพื่อการันตีคุณภาพของเหล็ก ซึ่งงานโครงการก่อสร้างจะเลือกใช้เหล็กที่ได้มาตรฐาน
- เหล็กกล่องต้องได้ฉาก และความยาวของเหล็ก 6 ม. เต็ม
- เหล็กกล่อง ต้องได้คุณภาพ SS400
- เลือกซื้อกับบริษัทที่ไว้วางใจได้ กล้าการันตีคุณภาพเหล็ก ราคาเหมาะสมกับคุณภาพสินค้า
- เหล็กกล่องมีทั้งประเภท เหล็กกล่องเหลี่ยม เหล็กกล่องเเบน

 

ลักษณะเเละโครงสร้างของเหล็กกล่องสี่เหลี่ยม หนึ่งในรูปเเบบของเหล็กรูปพรรณรีดเย็น


      เหล็กกล่องสี่เหลี่ยม เป็นหนึ่งในรูปแบบของโครงสร้างเหล็กรูปพรรณรีดเย็น (Cold formed structural steel) นิยมใช้ในงานก่อสร้าง และงานสถาปัตยกรรมเป็นส่วนใหญ่ มีกระบวนการผลิตที่แตกต่างจากโครงสร้างเหล็กรูปพรรณรีดร้อน โดยการขึ้นรูปจากเหล็กแผ่นที่มีอุณหภูมิปกติ (อุณหภูมิห้อง) นำเข้าสู่ขั้นตอนการนำแผ่นเหล็กไปพับเป็นรูปทรงที่ต้องการและเชื่อมเหล็กเข้าด้วยกันให้กลายเป็นเหล็กกล่องสี่เหลี่ยม เหล็กท่อกลม ท่อเหล็กดำ เหล็กกล่องแบน ท่อสังกะสี เหล็กตัวซี เป็นต้น ซึ่งกระบวนการรีดเย็นเพื่อผลิตเหล็กกล่องสี่เหลี่ยม หรือเหล็กรูปพรรณต่างๆ จะมีกระบวนการที่ค่อนข้างแตกต่างจากเหล็กรูปพรรณรีดร้อน (Hot rolled structural steel) ที่จำเป็นต้องใช้อุณหภูมิในการรีดเหล็กสูงกว่า 870 องศาเซลเซียส

     ลักษณะของเหล็กกล่องสี่เหลี่ยม มีหน้าตัด 4 ด้านเท่ากัน ความยาวมาตรฐาน 6 เมตร ขนาดเริ่มต้น 25×25 มม. หน้าตัดทุกมุมทำมุม 90 องศา ด้านในโปร่ง โดยเหล็กกล่องสี่เหลี่ยมมีขนาดมาตรฐานเริ่มต้นที่ 12×12 มม. ตามมาตรฐาน JIS G3466 ซึ่งเป็นมาตรฐานท่อเหล็กงานโครงสร้าง

     เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมมีความหนาเริ่มต้นที่ 1.6 มม. โดยเหล็กกล่องมีคุณสมบัติการใช้งานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง งานโครงสร้างต่างๆ โครงหลังคา โครงสร้างสะพาน งานเสา ทำนั่งร้าน หรือยังสามารถนำไปใช้ในการก่อสร้างทั่วไป ทดแทนการใช้คอนกรีต หรือไม้ อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบา ทนทาน เคลื่อนย้ายง่าย แข็งแรง อีกด้วย

     การก่อสร้างที่ดี ผู้รับเหมาควรต้องมีความพิถีพิถันในการเลือกเหล็กรูปพรรณมาใข้งาน โดยเฉพาะเหล็กกล่องสี่เหลี่ยมที่ควรมีมาตรฐาน มอก. การันตีคุณภาพเสมอ เพื่อการให้การก่อสร้างมีความปลอดภัยแข็งแรงสูง และควรเลือกซื้อบริษัทจัดจำหน่ายเหล็กก่อสร้างที่น่าเชื่อถือเท่านั้น โดยมีวิธีพิจารณาในการเลือกศูนย์จำหน่ายเหล็ก คือ 1. ราคาถูก (Lower Price) 2. คุณภาพสูง (High Quality) 3. จัดส่งรวดเร็ว (Fast Delivery)

      หากต้องการเหล็กกล่องสี่เหลี่ยม เหล็กรูปพรรณ เหล็กเส้น เหล็กไวร์เมท เหล็กก่อสร้างทุกชนิด เหล็กกล่องสี่เหลี่ยม ในราคาที่ถูก แต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ จัดส่งสินค้าที่รวดเร็วภายใน 1-2 วัน ต้องนึกถึง บริษัท พิพัฒน์สตีล จำกัด ศูนย์รวมจำหน่ายเหล็กชลบุรี ที่มีชื่อเสียงในวงการผู้รับเหมา ลูกค้าจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในเรื่องที่หนึ่งของคุณภาพและยอดขายอันดับ 1 ของเหล็กก่อสร้างในภาคตะวันออก


 

สนใจสั่งซื้อเหล็กราคาถูกได้ที่ บริษัท พิพัฒน์สตีล จำกัด
Tel : 093-263-6353 (คุณแป้ง)
Tel : 081-144-5363 (คุณพิพัฒน์)
Line : https://lin.ee/gXlZ5Au
E-mail : [email protected]
Inbox : m.me/phiphatsteel
Website : www.phiphatsteel1.com


-------------------------------------------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง

“พิพัฒน์สตีล” สุดยอดผู้นำด้านงานเหล็กก่อสร้างทุกชนิดในภาคตะวันออก

ข้อแนะนำในการตัดสินใจเลือกซื้อเหล็กไวร์เมชอย่างมีคุณภาพ

เหล็กไวด์แฟรงค์ & เหล็กเอชบีม พระเอกของงานโครงสร้างทั่วไป ที่วิศวกรเลือกใช้

แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) ชนิดใดบ้างที่นิยมในวงการอุตสาหกรรม

       à¸ªà¸³à¸«à¸£à¸±à¸šà¹ƒà¸™à¸¢à¸¸à¸„ปัจจุบันแขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับวงการอุตสาหกรรมในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากแขนกลหุ่นยนต์เป็นเครื่องจักรที่ถูกออกแบบควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติโดยการเขียนโปรแกรมให้เคลื่อนที่ได้อย่างน้อย 3 แกนหรือมากกว่า ซึ่งแขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) สามารถออกแบบให้ยึดอยู่กับที่หรือย้ายตำแหน่งไปมาได้ตามความเหมาะสมของประเภทงานที่จะใช้ในงานอุตสาหกรรมนั้นๆ โดยการแบ่งชนิดของหุ่นยนต์จะแบ่งตามลักษณะรูปทรงของพื้นที่ทำงาน (Envelope Geometric) ของจุดต่อ (Joint) ของหุ่นยนต์สามารถแบ่งได้ 2 แบบ ดังนี้ 1. ชนิด Revolute (R) เป็นการหมุนรอบแกน (Rotary) 2.Prismatic (P) เป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น (Linear motion) และเมื่อนำจุดต่อของหุ่นยนต์ทั้งสองแบบมาต่อเข้าด้วยกันอย่างน้อย 3 แกนหลักจะได้พื้นที่ทำงาน ( Work envelope) ที่มีลักษณะแตกต่างกันไปก็จะได้ประเภทแขนกลหุ่นยนต์ต่างๆ ใช้ในวงการอุตสาหกรรม

 

แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot)

 

 

ประเภทของแขนกลหุ่นยนต์ที่นิยมใช้ในวงการอุตสาหกรรม ได้แก่


1. Cartesian (Gantry) Robot แกนทั้ง 3 ของแขนกลหุ่นยนต์จะเคลื่อนที่เป็นแบบเชิงเส้น (Prismatic) ถ้าโครงสร้างมีลักษณะคล้าย Overhead Crane จะเรียกว่าเป็นหุ่นยนต์ชนิด Gantry แต่ถ้าหุ่นยนต์ไม่มีขาตั้งหรือขาเป็นแบบอื่น เรียกว่า ชนิด Cartesian

ข้อดี

1. เคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรงทั้ง 3 มิติ
2. การเคลื่อนที่สามารถทำความเข้าใจง่าย
3. มีส่วนประกอบง่ายๆ
4. โครงสร้างแข็งแรงตลอดการเคลื่อนที่


ข้อเสีย

1. ต้องการพื้นที่ติดตั้งมาก
2. บริเวณที่หุ่นยนต์เข้าไปทำงานได้ จะเล็กกว่าขนาดของตัวหุ่นยนต์
3. ไม่สามารถเข้าถึงวัตถุจากทิศทางข้างใต้ได้
4. แกนแบบเชิงเส้นจะ Seal เพื่อป้องกันฝุ่นและของเหลวได้ยาก


การประยุกต์ใช้งาน

เนื่องจากโครงสร้างมีความแข็งแรงตลอดแนวการเคลื่อนที่ ดังนั้นจึงเหมาะกับงานเคลื่อนย้ายของหนักๆ หรือเรียกว่างาน Pick-and-Place เช่น ใช้โหลดชิ้นงานเข้าเครื่องจักร (Machine loading) ใช้จัดเก็บชิ้นงาน (Stacking) นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในงานประกอบ (Assembly) ที่ไม่ต้องการเข้าถึงในลักษณะที่มีมุมหมุน เช่น ประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และงาน Test ต่างๆ

2. Cylindrical Robot หุ่นยนต์ประเภทนี้จะมีแกนที่ 2 (ไหล่) และแกนที่ 3 (ข้อศอก) เป็นแบบ Prismatic ส่วนแกนที่ 1 (เอว) จะเป็นแบบหมุน (Revolute) ทำให้การเคลื่อนที่ได้พื้นที่การทำงานเป็นรูปทรงกระบอก

 à¸‚้อดี

1. มีส่วนประกอบไม่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่สามารถเข้าใจได้ง่าย
3. สามารถเข้าถึงเครื่องจักรที่มีการเปิด – ปิด หรือเข้าไปในบริเวณที่เป็นช่องหรือโพรงได้ง่าย (Loading) เช่น การโหลดชิ้นงานเข้าเครื่อง CNC


ข้อเสีย

1. มีพื้นที่ทำงานจำกัด
2. แกนที่เป็นเชิงเส้นมีความยุ่งยากในการ Seal เพื่อป้องกันฝุ่นและของเหลว


การประยุกต์ใช้งาน

โดยทั่วไปจะใช้ในการหยิบยกชิ้นงาน (Pick-and-Place) หรือป้อนชิ้นงานเข้าเครื่องจักร เพราะสามารถเคลื่อนที่เข้าออกบริเวณที่เป็นช่องโพรงเล็กๆ ได้สะดวก

3. Spherical Robot (Polar) มีสองแกนที่เคลื่อนในลักษณะการหมุน (Revolute Joint) คือแกนที่ 1 (เอว) และแกนที่ 2 (ไหล่) ส่วนแกนที่ 3 (ข้อศอก) จะเป็นลักษณะของการเคลื่อนที่แนวเส้นตรง 

ข้อดี

1. มีปริมาตรการทำงานมากขึ้นเนื่องจากการหมุนของแกนที่ 2 (ไหล่)
2. สามารถที่จะก้มลงมาจับชิ้นงานบนพื้นได้สะดวก


ข้อเสีย

1. มีระบบพิกัด (Coordinate) และส่วนประกอบ ที่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่และระบบควบคุมมีความซับซ้อนขึ้น


การประยุกต์ใช้งาน

ใช้ในงานที่มีการเคลื่อนที่ในแนวตั้ง (Vertical) เพียงเล็กน้อย เช่น การโหลดชิ้นงานเข้าออกจากเครื่องปั้ม (Press) หรืออาจจะใช้งานเชื่อมจุด (Spot Welding)

 

 à¹à¸‚นกลหุ่นยนต์


4. SCARA Robot จะมีลักษณะแกนที่ 1 (เอว) และแกนที่ 3 (ข้อศอก) หมุนรอบแกนแนวตั้ง และแกนที่ 2 จะเป็นลักษณะการเคลื่อนที่ขึ้นลง (Prismatic) ซึ่งหุ่นยนต์ SCARA จะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วในแนวระนาบ และมีความแม่นยำสูง

ข้อดี

1. สามารถเคลื่อนที่ในแนวระนาบ และขึ้นลงได้รวดเร็ว
2. มีความแม่นยำสูง


ข้อเสีย

1. มีพื้นที่ทำงานจำกัด
2. ไม่สามารถหมุน (rotation)ในลักษณะมุมต่างๆได้
3. สามารถยกน้ำหนัก (Payload) ได้ไม่มากนัก


การประยุกต์ใช้งาน

เนื่องจากการเคลื่อนที่ในแนวระนาบและขึ้นลงได้รวดเร็วจึงเหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้องการความรวดเร็วและการเคลื่อนที่ก็ไม่ต้องการการหมุนมากนัก แต่จะไม่เหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนทางกล (Mechanical Part) ซึ่งส่วนใหญ่การประกอบจะอาศัยการหมุน (Rotation)ในลักษณะมุมต่างๆ นอกจากนี้ SCARA Robot ยังเหมาะกับงานตรวจสอบ (Inspection) งานบรรจุภัณฑ์ (Packaging)

5. Articulated Arm ทุกแกนการเคลื่อนที่จะเป็นแบบหมุน (Revolute) รูปแบบการเคลื่อนที่จะคล้ายกับแขนคน ซึ่งจะประกอบด้วยช่วงเอว ท่อนแขนบน ท่อนแขนล่าง ข้อมือ การเคลื่อนที่ทำให้ได้พื้นที่การทำงาน 

ข้อดี

1. เนื่องจากทุกแกนจะเคลื่อนที่ในลักษณะ ของการหมุนทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการเข้าไปยังจุดต่างๆ
2. บริเวณข้อต่อ (Joint) สามารถ Seal เพื่อป้องกันฝุ่น ความชื้น หรือน้ำ ได้ง่าย
3. มีพื้นที่การทำงานมาก
4. สามารถเข้าถึงชิ้นงานทั้งจากด้านบน ด้านล่าง
5. เหมาะกับการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นชุดขับเคลื่อน


ข้อเสีย

1. มีระบบพิกัด (Coordinate) ที่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่และระบบควบคุมทำความ เข้าใจได้ยากขึ้น
3. ควบคุมให้เคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง (Linear) ได้ยาก
4.โครงสร้างไม่มั่นคงตลอดช่วงการเคลื่อนที่ เพราะบริเวณขอบ Work Envelope ปลายแขนจะ
5. มีการสั่น ทำให้ความแม่ยำลดลง


การประยุกต์ใช้งาน

หุ่นยนต์ชนิดนี้สามารถใช้งานได้กว้างขวางเพราะสามารถเข้าถึงตำแหน่งต่างๆ ได้ดี เช่น งานเชื่อม Spot Welding, Path Welding, งานยกของ, งานตัด, งานทากาว, งานที่มีการเคลื่อนที่ยากๆ เช่น งานพ่นสี งาน Sealing ฯลฯ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า Industrial Robot นั้นมีหลากหลายประเภท แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่หุ่นยนต์อุตสาหกรรมมีประโยชน์เหมือนกัน คือ สามารถช่วยทุ่นแรงในการทำงานต่าง ๆ แทนมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เช่น งานยกสินค้าจากสายงานการผลิต งานประกอบ งานเชื่อม งานตัด เป็นต้น

 

บริษัท ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด


       à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เช่น เครื่องประกอบชิ้นงาน Auto assembly machine แขนกลหุ่นยนต์ เครื่องจักรระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์หยิบจับชิ้นงาน รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ เครื่องตรวจสอบและทดสอบชิ้นงาน เครื่องประกอบชิ้นงาน เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทฯ รับออกแบบและผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติทุกชนิด โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ช่วยลูกค้าตัดสินในเรื่องการลงทุน ด้านออโตเมชั้น การติดตั้ง การฝึกอบรมการใช้งาน รวมถึงการดูแลรักษาซ่อมบำรุง มีอะไหล่ให้เปลี่ยนตามอายุการใช้งาน
---------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
มาทำความรู้จัก บริษัท ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด
รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ สุดยอดตัวช่วยสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
ตอบโจทย์การประกอบชิ้นงานสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วย “เครื่องประกอบชิ้นงาน” เทคโนโลยีสุดล้ำ 

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับราวกันตก

ราวกันตกหรือราวระเบียงมีความสำคัญอย่างไร ?


       à¸£à¸²à¸§à¸à¸±à¸™à¸•à¸ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญหนึ่งของสิ่งก่อสร้าง อาคารบ้านเรือน จะช่วยเสริมสร้างความสวยงานให้กับตัวอาคาร บ้านเรือน ได้อย่างดีเยี่ยมอีกทั้งยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุหรืออันตรายที่เกิดจากการพลัดตกจากที่สูง ซึ่งราวกันตกนั้นสามารถออกแบบให้เหมาะสมสไตล์บ้านของลูกค้าได้เลย  à¹€à¸žà¸£à¸²à¸°à¸‰à¸°à¸™à¸±à¹‰à¸™à¹€à¸£à¸²à¸„วรเลือกใช้วัสดุในการติดตั้งที่มีคุณภาพ ความคงทนแข็งแรงและผสมผสานกับวัสดุอื่นๆได้อย่างลงตัว ดังนั้นเราควรที่จะศึกษาเกี่ยวกับวัสดุในการติดตั้งในลักษณะต่างๆเพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการใช้งานและการติดตั้งให้มากขึ้น    

 

    à¸£à¸²à¸§à¸à¸±à¸™à¸•à¸à¸ªà¹à¸•à¸™à¹€à¸¥à¸ª   à¸£à¸²à¸§à¸à¸±à¸™à¸•à¸à¸ªà¹à¸•à¸™à¹€à¸¥à¸ªà¸„อนโดมิเนียม   à¸£à¸²à¸§à¸à¸±à¸™à¸•à¸à¹à¸šà¸šà¹€à¸«à¸¥à¹‡à¸

 

 

ประเภทของราวกันตกที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ได้แก่


1.ราวกันตกสแตนเลส
เป็นราวที่ทำจากสแตนเลสทั้งหมด เนื่องจากสแตนเลสเป็นวัสดุที่ไม่ผุพังง่าย  à¸£à¸°à¸¢à¸°à¹€à¸§à¸¥à¸²à¸à¸²à¸£à¹ƒà¸Šà¹‰à¸‡à¸²à¸™à¸—ี่ยาวนาน  à¹„ม่เป็นสนิมง่าย ส่วนใหญ่ราวกันตกแบบสแตนเลสเรามักพบเห็นกันมากตามโรงแรมที่พัก อาคารบ้านเรือน เนื่องจากสแตนเลสมีความคงทนแข็งแรงจึงเป็นที่นิยมกันมาก  à¹à¸•à¹ˆà¸¡à¸µà¸‚้อควรระวังในการใช้งานคือ สแตนเลสอาจจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเหล็กและวัสดุอื่นๆก็จริง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและสภาพอากาศของแต่ละพื้นที่  à¸«à¸²à¸à¸ªà¹à¸•à¸™à¹€à¸¥à¸ªà¹„ด้รับความชื้นในปริมาณมากๆ ก็จะทำให้อายุการใช้งานนั้นสั้นลงได้เช่นเดียวกัน


2.ราวกันตกแบบสแตนเลสกับกระจก
เป็นการผสมผสานกันระหว่างสแตนเลสกับกระจก เพื่อทำให้เกิดความสวยงามและความแข็งแรง  à¸ªà¹ˆà¸§à¸™à¹ƒà¸«à¸à¹ˆà¸£à¸²à¸§à¸à¸±à¸™à¸•à¸à¸›à¸£à¸°à¹€à¸ à¸—นี้เรามักจะถูกพบเห็นกันมากในคฤหาสน์ บ้านจัดสรร หรือองค์กรใหญ่ๆ เพื่อทำให้เกิดความสวยงามยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเราควรระมัดระวังในการใช้งานและเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เช่น การเลือกใช้กระจกที่มีความหนา เพราะหากเราเลือกใช้กระจกที่มีคุณภาพต่ำหรือบางมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้


3. ราวกันตกแบบเหล็ก
ราวกันตกแบบเหล็ก มีลักษณะการสร้างโดยนำเหล็กมาเป็นวัสดุหลักในการสร้างเป็นลูกเล่นในการต่อเติมบ้าน ข้อดีของเหล็กคือมีราคาต่ำ และมีความแข็งแรง หาซื้อได้ง่าย  à¸ˆà¸¶à¸‡à¸—ำให้เป็นที่นิยมใช้กันมาก ในอุตสาหกรรมและสถานที่ต่างๆ ข้อควรระวังคือเหล็กจะมีอายุการใช้งานสั้น เพราะเป็นสนิมได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณจุดเชื่อมหรือรอยต่อของราว


4. ราวกันตกตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลายไม้
เป็นราวกันตกที่มีโครงสร้างทำจากเหล็กและสแตนเลส และมีการตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลายไม้ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและมีสไตล์ที่โมเดิร์นให้ดูทันสมัยมากขึ้น     

 

ออกแบบติดตั้งราวกันตกและรางน้ำฝน


       à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— พันธุ์นราโลหะการ จำกัด เป็นผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับงานสแตนเลสจึงทำให้เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบและติดตั้งราวกันตก ราวบันได รางน้ำฝน แบบครบวงจร โดยทางร้านจะนิยมใช้สแตนเลสเกรด 304 ในการติดตั้งงานประเภทต่าง ๆ ติดตั้งรางน้ำฝน เพราะสแตนเลสมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน ป้องกันการเกิดสนิมและการผุกร่อน ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และเป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียวแต่สามารถใช้งานได้ตลอด หากสนใจสินค้าหรือบริการเพิ่มเติม คลิก
------------------------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
8 ข้อดีของงานติดตั้งหลังคาเมทัลชีท
สาระน่ารู้เกี่ยวกับรางน้ำฝน
มาทำความรู้จักกับลูกหมุนระบายอากาศกัน  

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก

ปั๊มพ่นยา ส่วนประกอบของอุปกรณ์การเกษตรสำหรับฉีดพ่นสารเคมี

        à¸›à¸±à¹Šà¸¡à¸žà¹ˆà¸™à¸¢à¸² à¸„ือ à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ที่เป็นส่วนหนึ่งในเครื่องพ่นยา ที่สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ทั้งงานฉีดพ่นยาฆ่าเเมลง พ่นสารเคมี พ่นฮอร์โมน หรือสามารถนำไปใช้ฉีดล้างทำความสะอาดพื้นตามที่ผู้ใช้งานต้องการ ปั๊มพ่นยานั้น มีตั้งเเต่ 2 สูบ จนถึงประมาน 4 สูบ ซึ่งตัวเลขค่าสูบ มาจากระบบกลไกการขับเคลื่อนด้วยลูกสูบ 2 สูบ 3 ปั๊มพ่นยา สูบ หรือ 4 สูบ เป็นต้น เพื่อสร้างเเรงขับเคลื่อนในการส่งกำลังอัดจากภายในกระบอกสูบ ส่งผ่านต่อไปยังชุดวาล์วควบคุมแรงดันเพื่อเปลี่ยนพลังงานไปใช่ในการส่งแรงดันน้ำ ทั้งนี้ ปั๊มพ่นยา 3 สูบ เป็นปั๊มพ่นยาที่ค่อนข้างนิยมใช้งานอย่างเเพร่หลาย โดยเราจะมาทำความรู้จักปั๊มพ่นยาชนิดนี้กันค่ะ    

 

 

ปั๊มพ่นยา 3 สูบ

 

ปั๊มพ่นยา 3 สูบ


ปั๊มพ่นยา 3 สูบ à¸¡à¸µà¸ªà¹ˆà¸§à¸™à¸›à¸£à¸°à¸à¸­à¸šà¸«à¸¥à¸±à¸à¹† อะไรบ้าง

1. ท่อน้ำดูด
2. สายน้ำเดรนทิ้ง
3. วาล์วไล่อากาศ (ติดกับเกจวัดแรงดัน)
4. วาล์วเปิดแรงดัน (ปั้มพ่นยามักใช้งานได้ 2 หัวพ่น)
5. มู่เลย์อะลูมิเนียม


      à¸›à¸±à¹Šà¸¡à¸žà¹ˆà¸™à¸¢à¸² 3 สูบ à¹€à¸¡à¸·à¹ˆà¸­à¸¡à¸µà¸à¸²à¸£à¹ƒà¸Šà¹‰à¸‡à¸²à¸™ ภายในปั๊มจะมีการดูดสารเคมีขึ้นมาผ่านทางน้ำเข้าที่มีขนาดต่างกัน เช่น à¸‚นาด 6 หุล (หุล คือ ขนาดของทางน้ำเข้า), ขนาด 1 นิ้ว หรือขนาดใหญ่กว่านั้น จากนั้นจะเกิดเป็นเเรงดันด้วยลูกสูบทั้งสาม ผ่านตัววาล์วที่ทำหน้าที่เป็นตัวดักน้ำกันเพื่อไม่ให้สารเคมีไหลย้อนกลับไปลงในถัง 

      จากนีั้น เมื่อมีเเรงดันเกิดขึ้น ขั้นตอนต่อไปคือ จะมีการส่งผ่านไปยังชุดควบคุมแรงดันที่อยู่ทางด้านบน เพื่อนำออกไปใช้งาน เเต่ตอนที่ใช้งานปั๊มก็ต้องมีการใช้อย่างระมัดระวังอย่างต่อเนื่องในขณะที่ฉีดพ่น เพื่อรักษาแรงดันขณะที่สารเคมีไหลออกไป ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า การทำงานเกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้สารเคมีทุกครั้ง ผู้ใช้งานควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ à¹‚ดยควรตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ทุกครั้งก่อนใช้งาน เเละอย่าลืมสวมชุดอุปกรณ์ป้องกันให้เรียบร้อย 

 

ปั้มพ่นยา 2 สูบ

 

ปั้มพ่นยา 2 สูบ

 

 

ปั้มพ่นยา 3 สูบ 1 นิ้ว เขียว

 

ปั้มพ่นยา 3 สูบ 1 นิ้ว เขียว

 

 

ปั้มพ่นยา 4 สูบ

 

ปั้มพ่นยา 4 สูบ


 

       à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— ดาวทองจักรกล จำกัด à¸ˆà¸³à¸«à¸™à¹ˆà¸²à¸¢ à¹€à¸„รื่องพ่นยา-เคมี และอะไหล่ à¸›à¸±à¹Šà¸¡à¸žà¹ˆà¸™à¸¢à¸² 3 สูบ à¸ˆà¸™à¸–ึง 4 สูบ คุณภาพดี ราคาย่อมเยา à¹€à¸£à¸² คือ ผู้นำเข้าและพัฒนาอะไหล่เครื่องจักรกลเกษตร อะไหล่รถเกี่ยว อะไหล่รถไถ อุปกรณ์ต่อพ่วงรถไถ เพื่อให้ชาวเกษตรกรได้ผลผลิตที่เพิ่มพูนและยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเตรียมพื้นที่ อะไหล่เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ต่างๆ การลงปุ๋ยและเคมี รวมถึงอุปกรณ์และอะไหล่สำหรับเก็บเกี่ยวผลผลิต

 

สนใจติดต่อเพิ่มเติมได้ที่

https://daothongjakkhon.com

http://daothongjukkhon.brandexdirectory.com

http://อะไหล่เครื่องจักรกลเกษตร.com    

 

-------------------------------------------------------

 

บทความที่เกี่ยวข้อง


สาระน่ารู้เกี่ยวกับกระบอกไฮดรอลิครถไถ

ใบผานตัวช่วยในการเตรียมดินปลูกมันสำปะหลัง

เทคนิคการเลือกใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงรถไถให้เหมาะสมกับงาน

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15